Mark Rothko เกิดเมื่อปี 1902 เป็นศิลปินชื่อก้องโลก ที่วาดภาพแนว abstract expressionist ในศตวรรษที่ 20 นี้ โดยมีผลงานชิ้นสำคัญ ที่บุกเบิกแนวการวาดภาพในการใช้สี รูปร่าง และการวาดในระดับยักษ์ใหญ่ ซึ่งการใช้สีนั้นมีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นอารมณ์ส่วนลึกและจิตวิญญาณของผู้ที่ได้มาดูภาพนั้น ๆ โดยสไตล์ของ Mark Rothko ที่เป็นเอกลักษณ์คือ การใช้ภาพกล่องสีเหลี่ยมขอบมน ที่วางเรียงซ้อนกัน เหมือนลอยส่องสว่างอยู่ในผืนผ้าใบ ที่บรรเลงสีที่เรียบง่ายลงไป ซึ่ง Mark Rothko เชื่อว่าสามารถชักจูงอารมณ์ของคนที่ได้เห็นภาพ ไม่ว่าใครก็ตาม ให้มีอารมณ์และมีประสบการณ์ครุ่นคิดในระดับจิตวิญญาณลงไปได้
งานของ Mark Rothko ถือเป็นคุณูปการอย่างมากต่อวงการศิลปะ ในยุคหลังสงครามโลกของที่ 2 เพราะเป็นสะพานเชื่อมระหว่างการวาดภาพแนว traditional และ modern art เข้าด้วยกัน และท้าทายคนที่มาชมงานให้มีปฏิสัมพันธ์กับการเล่นของสีและรูปทรงที่อยู่ในภาพวาดนั้น ๆ ในระดับอารมณ์และการคิด ทำให้ Mark Rothko ถือเป็นคนสำคัญอย่างมากในการพัฒนาการวาดภาพแนว abstract art ขึ้นมา แถมยังมีอิทธิภลต่อศิลปินรุ่นหลัง ๆ อย่างมาก ในการวาดภาพ Modern Art และการพัฒนาของ abstract expressionism
ประวัติของ Mark Rothko คือเกิดในครอบครัวชาวยิวที่ Latvia ซึ่งในยุคนั้นยังเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิรัสเซีย ครอบครัวของ Mark Rothko เป็นคนที่ยึดถืออุดมการณ์ Marxism โดยมีพ่อที่เป็นเภสัชกร ที่คอยสอนเรื่องอุดมการณ์นี้ และต่อต้านศาสนาอย่างรุนแรง
ครอบครัวของ Mark Rothko ตัดสินใจย้ายมาอเมริกาในช่วงที่ครอบครัวโดยเฉพาะพี่ชายคนโตต้องถูกเกณฑ์เข้ากองทัพรัสเซีย ซึ่งครอบครัวไม่อยากให้ลูก ๆ ต้องรับใช้ระบอบจักรวรรดิ เลยพากันอพยพมาอเมริกา ทำให้ Mark Rothko ได้เรียนในมหาวิทยาลัย Yale ในปี 1921 ซึ่งได้เรียนเรื่องภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส ประวัติศาสตร์ยุโรป จิตวิทยา ปรัชญา ฟิสิกส์ และคณิตศาสตร์ โดยตอนแรก Mark Rothko อยากจะเป็นทนายหรือวิศวกร ตามคนอเมริกันในยุคนั้น แต่สุดท้ายได้ตัดสินใจเลิกเรียนต่อและย้ายมาอยู่า New York ที่ทำให้เขาพบกับจิตรกร Milton Avery ที่มีอิทธิพลต่อวงการศิลปะสมัยใหม่ของอเมริกา ด้วยการวาดภาพ ข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน แต่มุ่งเน้นไปที่ความสัมพันธ์สีและไม่ได้เกี่ยวข้องกับการสร้างภาพลวงตาของความลึก ทำให้ Mark Rothko ประทับใจในการเข้าวงการศิลปะเป็นต้นมา
งานของ Mark Rothko มาเปลี่ยนแปลงในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เขาค้นพบแรงบันดาลใจในศิลปะจากการใช้อารมณ์ต่าง ๆ ของมนุษย์ โดยเฉพาะในช่วงสงครามที่มีแต่ข่าวหายนะ ความสิ้นหวัง และโศกนาฏกรรมต่าง ๆ เขานำอารมณ์เหล่านี้ผนวกกับการคิดในเชิงปรัชญาและจิตวิทยา จิตวญญาณ ออกมาเป็นงานที่โด่งดังในปัจจุบันนั้นเอง
ด้วยความโด่งดังของ Mark Rothko ขึ้นมา ทำให้ชิ้นงานของ Mark Rothko นั้นเป็นที่หมายปองของนักสะสมในตอนนั้นทันที และยังมีการจ้างวาดภาพต่าง ๆ เพื่อนำไปตกแต่งที่ต่าง ๆ อีกด้วย ซึ่งเรื่องราวที่โด่งดังเกิดขึ้นเมื่อ โรงแรม Four Seasons ที่ตึก Seagram เมือง New York ประเทศอเมริกา จ้าง Mark Rothko ในการวาดภาพเพื่อตกแต่งห้องอาหารสุดหรูในมูลค่า $35,000 ในตอนนั้น
แต่ Mark Rothko นั้นรังเกียจพวกชนชั้นนำหรือคนรวย ตามที่เคยได้รับการปลูกฝังมาจากในอดีตด้วยอุมการณ์ Marxis เมื่อได้รับคำของงานนี้ Mark Rothko ถึงขั้นพูดว่า “I hope to paint something that will ruin the appetite of every son of bitches who ever eats in that room”
ซึ่ง Mark Rothko ก็ทำงานเสร็จไปด้วยดี และส่งมอบให้กับโรงแรม แล้ววันหนึ่งเขาก็อยากเห็นภาพวาดของเขา ก็เลยไปรับประทานอาหารที่ Four Seasons กับภรรยา เขาหวังว่าจะได้ชื่นชมงานตัวเองที่นั้น แต่หลังจากการทานอาหาร Mark Rothko ได้ติดต่อทานโรงแรมทันทีเพื่อขอภาพคืน และคืนเงินค่าจ้างที่ได้รับมาจากการวาดภาพนี้ขึ้นมา
มีความเชื่อกันว่า Mark Rothko ได้กล่าวว่า “ใครก็ตามที่สนใจที่จะกินอาหารแบบนั้น ในระาคาที่แพงแบบนั้น ย่อมไม่มีวันที่จะเงยหน้ามาชื่นชมงานของเขา” ซึ่งเมื่อ Mark Rothko ได้ภาพคืนมา ก็เอาภาพนั้นบริจาคให้หอศิลป์ Tate ที่เมือง London ประเทศอังกฤษไป